กทม.หนุน นมร.เดินหน้าจัดการภัยพิบัติเมือง

ผู้ว่าฯกทม.หนุน มหาวิทยาลัยนวมินทราธิราชขับเคลื่อนแผนภัยพิบัติเมือง  พร้อมสร้างมาตรฐานขีดความสามารถในการดูแลผู้สูงอายุและผู้ป่วยติดเตียง

ดร.พิจิตต รัตตกุล อธิการบดีมหาวิทยาลัยนวมินทราธิราช นำคณะผู้บริหารมหาวิทยาลัย และผู้บริหารคณะแพทยศาสตร์วชิรพยาบาล  คณะพยาบาลศาสตร์เกื้อการุณย์ วิทยาลัยพัฒนามหานคร และวิทยาลัยชุมชนเมืองแห่งกรุงเทพมหานคร  หารือร่วมกับคณะผู้บริหารกรุงเทพมหานคร เมื่อวันที่ 28 มกราคม 2558 ที่ผ่านมา ถึงขีดความสามารถของแต่ละส่วนงานของมหาวิทยาลัยนวมินทราธิราช  โครงสร้างหลักสูตรการฝึกอบรมต่างๆ  เป้าหมายนโยบายของแต่ละส่วนงานที่ต้องการแสวงหาความร่วมมือกับกรุงเทพมหานคร  ตลอดจนนโยบายที่จะช่วยกรุงเทพมหานครพัฒนาศักยภาพบุคลากรเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการปฏิบัติงาน

โดย ดร.พิจิตต กล่าวว่า งานเร่งด่วนที่ทางมหาวิทยาลัยนวมินทราธิราชต้องการผลักดันให้เกิดเป็นรูปธรรมมากที่สุด เพื่อตอบโจทย์ปัญหาเมือง ได้แก่ การจัดตั้งศูนย์เตือนภัยพิบัติเมือง การจัดตั้งหลักสูตรปฏิบัติการฉุกเฉินการแพทย์ ของคณะแพทยศาสตร์วชิรพยาบาล การจัดตั้งคณะวิทยาศาสตร์สุขภาพเขตเมือง (FACULTY OF URBAN HEALTH SCIENCES) ซึ่งจะเป็นคณะที่ 5 ของมหาวิทยาลัยฯ การผลักดันวิศวกรชุมชนให้ทำงานร่วมกับวิศวกรรมสถานแห่งประเทศไทย การฝึกอบรมเทศกิจให้สามารถดูแลความปลอดภัยคนเมืองได้ในระดับต้น เช่น การปฐมพยาบาลคนเป็นลม การช่วยทำคลอด เป็นต้น

ด้าน  ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร  กล่าวว่า เนื่องจาก กทม.มีจุดแข็งในเรื่องทรัพยากรบุคคลเพราะมีผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทางจำนวนมาก ตลอดจนมีองค์ความรู้ที่ดีที่พร้อมให้การสนับสนุน โดยเฉพาะเรื่องแผนจัดตั้งศูนย์เตือนภัยพิบัติ “ผมให้ความสนใจมาก ภายใน 6 เดือน  ผมอยากให้แผนนี้เกิดขึ้นให้ได้ เพราะผมอยากเห็นกทม.เป็นตัวอย่างเรื่องการบริหารจัดการภัยพิบัติในอนาคต และอยากเห็นการทำงานในลักษณะแนวนอน ไม่ใช่แนวดิ่งเหมือนที่ผ่านมา โดยเฉพาะต้องเร่งสร้างระบบความร่วมมือและสร้างเครือข่ายการทำงานร่วมกัน ” ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ กล่าว

นอกจากนี้ ผู้ว่าฯ กทม. ยังได้เน้นย้ำให้มหาวิทยาลัยนวมินทราธิราช สร้างมาตรฐานขีดความสามารถในการดูแลผู้สูงอายุและผู้ป่วยติดเตียงด้วย ซึ่งในเรื่องนี้ทางคณะพยาบาลศาสตร์เกื้อการุณย์น้อมรับไปดำเนินการ

งานประชาสัมพันธ์
โทร 02 244 3860
Email:askans.rector@gmail.com

Posted by & filed under ข่าวประชาสัมพันธ์.